Moonshot (2022) เป็นภาพยนตร์โรแมนติกคอมมาดี้ แนววิทยาศาสตร์ อเมริกันในปี 2022 กำกับโดย Chris Winterbauer และเขียนโดย Max Taxe นำแสดงโดย Cole Sprouse , Lana Condor , Mason Gooding , Emily Rudd และ Zach Braff เนื้อเรื่องเกี่ยวกับนักศึกษาวิทยาลัย (Condor) ที่ช่วยบาริสต้า (Sprouse) แอบขึ้นกระสวยอวกาศไปยังดาวอังคาร ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายทางช่อง HBO Max เมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2565
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคะแนนจาก
IMDb ไปถึง 5.5/10 คะแนน รับชมหนังใหม่
ดูหนังออนไลน์ได้ที่นี้ ไปรับชมกันได้เลย
Moonshot (2022) หนังรักโรแมนติกคอมเมดี้ที่นักแสดงนำวัยรุ่นอย่างโคล สเปราซ์และลาน่า คอนดอร์มาแสดงนำอีกด้วย โดยเล่าเรื่องของของดาวโลกและดาวอังคารที่เชื่อมโยงกันและกัน เมื่อโลกสามารถเดินทางไปนอกโลก โดยเฉพาะการย้ายไปตั้งหลักปักฐานในดาวเคราะห์อย่างดาวอังคารกันมากขึ้น ทำให้วอลต์ บาริสต้าร้านกาแฟในมหาวิทยาลัยได้มีความฝันที่อยากจะไปดาวอังคารสักครั้งในชีวิต โดยเขาได้พบกับโซฟี นักศึกษามหาวิทยาลัยเธอได้ช่วยเหลือให้วอลต์ได้ทำตามฝัน เรื่องราววุ่นๆ ของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต้องมาติดตามภาพยนตร์เรื่อง Moonshot กันเลย
เรื่องย่อ : เรื่องราวของวอลต์ บาริสต้าร้านกาแฟผู้มีความฝันอยากไปดาวอังคาร จนเขาได้สมัครโครงการไปดาวอังคารระดับนักศึกษาโควีอินดีสทรีส์ เขาเคยสมัครโครงการไปดาวอังคารมาถึง 37 ครั้ง แต่ก็ถูกปฏิเสธทุกครั้ง แต่ยังมีอีกหนึ่งหนทางที่จะทำให้เขาสามารถไปดาวอังคารนั่นก็คือการจ่ายเงินจำนวน 937,000 เหรียญ แต่นั่นเป็นเงินจำนวนมากกว่าที่เขาจะหามาได้ ทำให้วอลต์ต้องตัดสินใจหนีเข้าไปช่องระบายอากาศและสร้างแผนการบางอย่างเพื่อให้ตัวเองได้ไปดาวอังคารได้สำเร็จ และเขายังร่วมมือกับโซฟีนักศึกษาสาวที่คอยช่วยเหลือวอลต์ในตลอดการเดินทางไปสู่ดาวอังคาร แต่ทว่าการเดินทางไปยังดาวอังคารกลับไม่ได้อย่างที่คิด มันเสมือนกับว่าเป็นการผจญภัย และเสี่ยงชีวิต แต่ถึงอย่างนั้นการเดินทางไปดาวอังคารในครั้งนี้ยังนำพาให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาได้ใกล้ชิดกันจนค่อยๆ ก่อตัวเป็นความรักขึ้น
นักแสดงนำ : โคล สเปราซ์ รับบทเป็น วอลต์ บาริสต้าร้านกาแฟของมหาวิทยาลัย เขาเป็นคนที่มีหน้าตาใสซื่อ ดูแล้วอาจไร้เดียงสานิดหน่อย แต่กลับมีความมุ่งมั่นตั้งใจอยากที่จะไปนอกโลกตั้งแต่อายุ 6 ขวบ เมื่อคุณแม่ของเขาพาไปดูสุริยุปราคา ทำให้เขาอยากไปดวงอาทิตย์ แต่นั่นเป็นความคิดที่ผิดเพราะดวงอาทิตย์ร้อนเกินกว่าจะมนุษย์จะไปอยู่ได้ จนเขาได้เปลี่ยนเป้าหมายไปที่ดาวอังคารแทน
นักแสดงนำ : ลาน่า คอนดอร์ รับบทเป็น โซฟี นักศึกษาสาวบ้านรวยที่คนรอบตัวของเธอย้ายไปอยู่ดาวอังคาร รวมถึงแฟนหนุ่มที่คบกันมา 8 ปีเช่นกัน ทำให้เธอเองก็อยากที่จะไปอยู่ดาวอังคารตามคนรักของเธอเช่นกัน
เนื้อหาภาพยนตร์เริ่มที่ ในปี 2049 วอลท์ทำงานเป็นบาริสต้าในวิทยาเขตของวิทยาลัย ความฝันของเขาที่จะไปอวกาศสำเร็จได้ ด้วยการแนะนำโครงการ Kovi Industries Student Mars ซึ่งเป็นองค์กรที่ส่งนักศึกษาไปยังดาวอังคาร อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวได้ปฏิเสธข้อเสนอของเขา 37 ครั้ง เนื่องจากเขาขาดความรู้และความเชี่ยวชาญ ในการสำรวจดาวเคราะห์แดงของมนุษยชาติต่อไป
ที่งานปาร์ตี้ของวิทยาลัย เขาบังเอิญทำลูกแก้ว Wifi ของโซฟีแตก โดยบังเอิญ นักเรียนขี้ขลาดที่แฟนหนุ่มของเขา คาลวิน อยู่บนดาวอังคาร ขณะอยู่ในงานปาร์ตี้ เขายังตกหลุมรักกับจินนี่ นักเรียนอีกคน ซึ่งถูกส่งไปยังดาวอังคารในเช้าวันรุ่งขึ้น
ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา โซฟีไปปรากฏตัวที่ร้านกาแฟของวอลท์ทั้งน้ำตา เพราะคาลวินยอมรับที่จะอยู่บนดาวอังคารอีกต่อไป ดังนั้นวอลต์จึงเกลี้ยกล่อมให้เธอซื้อตั๋วเพื่อเดินทางในการเปิดตัวรถรับส่งครั้งถัดไป เมื่อเธอเข้าใกล้ประตูปล่อย วอลต์จัดการให้เธอช่วยเขาแอบเข้าไปในกระสวยอวกาศโดยแสร้งทำเป็นว่าเป็นคนในครอบครัว แต่กลับประหลาดใจเมื่อต้องอ้างว่า มีความสัมพันธ์บนกระสวยอวกาศเพื่อปกปิดตัวตนของเขาไว้เป็นความลับ
ระหว่างการเดินทางไปดาวอังคาร ทั้งสองยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้น วอลต์เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคาลวินในขณะที่เขาอ้างตัวตน และโซฟีได้รู้ว่าคาลวินตัวจริงอาจรั้งรองเธอไว้เบื้องหลังความฝันที่จะแปลงโฉมดาวอังคารเพื่อให้มีอัธยาศัยดียิ่งขึ้น ในระหว่างการนำเสนอบนเครื่องบิน วอลต์ถูกบังคับให้นำเสนอเกี่ยวกับการจัดรูปแบบภูมิประเทศ ซึ่งเป็นหัวข้อที่เขาไม่รู้อะไรเลย แต่โน้มน้าวผู้โดยสารสองคนให้แต่งงาน ในขณะที่คำพูดของเขาเกี่ยวกับความรักทำให้ผู้ชมประทับใจ โซฟีรวมอยู่ด้วย
เมื่อกระสวยเข้าใกล้ดาวอังคาร เธอบอกเขาว่าเธออยู่กับคาลวินและจะไม่ช่วยให้เขาไปถึงดาวอังคารอีกต่อไป ทำให้วอลท์เรียกเธอว่าคนขี้ขลาด บนดาวอังคาร โซฟีและคาลวินกลับมาพบกันอีกครั้งขณะที่หน่วยรักษาความปลอดภัยจับกุมวอลต์ ระหว่างรอการพิจารณาคดี จินนี่บอกวอลท์ว่าเธอพบคนใหม่บนดาวอังคารเนื่องจากความรักในคืนเดียวของพวกเขาและความต้องการที่ตามมาของเขาในการพบว่าเธอทำตัวแย่เกินกว่าจะรับมือไหว วันรุ่งขึ้น Walt พบกับหัวหน้าโครงการ Mars Leon Kovi ผู้ซึ่งบอก Walt ว่าบริษัทของเขารู้ทุกอย่างที่เขาทำผ่านกล้องรักษาความปลอดภัยบนรถรับส่งและปล่อยให้มันลื่นไถลเป็นการทดสอบความปลอดภัย โดยมีคณะกรรมการของโครงการวางแผน เพื่อฟ้องวอลท์เมื่อเขากลับมายังโลก เนื่องจากเขาไม่ชอบบอร์ดนี้ โควีจึงได้รั่ววิดีโอความปลอดภัยกลับมาบนโลกซึ่งแพร่ระบาดทางออนไลน์ เพื่อหลีกเลี่ยงฟันเฟือง
ในขณะที่ชีวิตของเขาในฐานะบาริสต้าและความคลั่งไคล้ในโลกออนไลน์เผยออกมา วอลต์ตระหนักดีว่าเขาไม่มีความสุขที่ได้อยู่บนดาวอังคาร ในทำนองเดียวกัน เมื่อรู้ว่าเธอเติบโตขึ้นนอกเหนือจากคาลวินและเป้าหมายของเขา โซฟีจึงเลิกกับเขาและขึ้นเรือกลับไปยังโลก เมื่อเห็นว่าชีวิตของเขากลายเป็นเบี้ยของโควี วอลต์ก็ขึ้นรถรับส่งกลับมายังโลก ซึ่งเขาได้พบกับโซฟีอีกครั้งและทั้งสองก็จูบกัน
รีวิวความประทับใจ : Moonshot เป็นหนังรักโรแมนติกคอมเมดี้ที่ดูเพลินๆ ดูเรื่อยๆ การดำเนินเรื่องจึงมีความค่อยเป็นค่อยไป โดยเล่าถึงความฝันของชีวิตวอลต์และโซฟีเป็นตัวละครหลัก สำหรับภาพบรรยากาศ แสงสีแสงจะมีความเป็นโทนสีมืดเพื่อเข้ากับเรื่องราวในอวกาศ โดยเฉพาะกับฉากที่วอลต์และโซฟีทะยานสู่อวกาศ ทำให้เราได้เห็นภาพอวกาศนอกโลกที่สวยตระการตามากๆ สำหรับตัวละครในเรื่องที่เราชื่นชอบคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพระเอกในเรื่องอย่างวอลต์ เพราะเขาเป็นผู้มุ่งมั่น มีความทะเยอทะยานในเป้าหมายชีวิตของตัวเอง แม้จะถูกปฏิเสธจากโครงการดาวอังคารแต่เขาก็ไม่เคยย่อท้อ และเชื่อมั่นในตัวเองจนสามารถทำมันสำเร็จได้ นอกจากนี้ภาพยนตร์เรื่อง Moonshot ยังมีคำคมหนึ่งที่ฟังแล้วประทับใจนั่นก็คือ "ดาวอังคารเป็นกระจกส่องเรา โลกตรงข้าม ภาพสะท้อนบ่งชัดถึงสิ่งที่อยู่ลึกในใจของเรา" ฟังแล้วรู้สึกโดนใจสุดๆ แถมยังเปี่ยมด้วยความหมายที่ลึกซึ้งอีกด้วย เนื้อเรื่องแม้จะมีความเอื่อยนิดหน่อย อาจปูเรื่องได้ไม่น่าตื่นเต้นสมกับเป็นภาพยนตร์ไซไฟ แต่โดยรวมแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นภาพยนตร์ที่ดูคลายเครียดได้ดีเหมือนกัน
เรื่องราวจะสนุกสนานมากแค่ไหน ไปติดตามและรับชมกันได้เลย...