The Witcher Blood Origin (2022) เดอะ วิทเชอร์ นักล่าจอมอสูร ปฐมบทเลือด

ตอนที่ :

เสียง :

The Witcher Blood Origin (2022) เดอะ วิทเชอร์ นักล่าจอมอสูร ปฐมบทเลือด
clock

01 ชม. 03 น.

sound

Thai,

Sound Track,

imdb

4.7

ปีที่ออกฉาย :
เรื่องย่อ :
The Witcher: Blood Origin หรือชื่อไทยว่า เดอะ วิทเชอร์ นักล่าจอมอสูร: ปฐมบทเลือด ย้อนไปไกลกว่านั้น คือเป็นเรื่องราวเมื่อ 1,200 ปีก่อนเกิด Conjuction of the Spheres ซึ่งเป็นยุคทองของเผ่าพันธุ์เอลฟ์บนแผ่นดินแห่งมหาทวีป แต่ในช่วงดังกล่าวก็ไม่ใช่ยุคสมัยแห่งสันติภาพ มีความขัดแย้ง สงคราม การฆ่าฟัน และการกระทำบางอย่างซึ่งก่อให้เกิดรอยแยกระหว่างมิติจนมีอสุรกายจากต่างโลกปรากฏตัว จากนั้นก็มีเอลฟ์กลุ่มหนึ่งหาทางจับอสุรกายเหล่านั้นมาใช้เป็นอาวุธ ตามด้วยเอลฟ์อีกกลุ่มที่หาทางดึงพลังจากอสุรกายมาใช้เพื่อสู้ตอบโต้กลุ่มแรก ซึ่งก็น่าจะเป็นต้นแบบของวิทเชอร์ในยุคหลัง อย่างไรก็ตาม ชื่อภาคแอบบอกใบ้อยู่กลายๆ ว่าท้ายที่สุดเรื่องราวน่าจะจบไม่สวย ซึ่งดูจากบริบทแล้วก็ทำให้พอคาดเดาได้ว่า การยุ่งเกี่ยวกับรอยแยกระหว่างมิติในซีรีส์นี้จะกลายเป็นชนวนเหตุให้เกิด Conjuction of the Spheres ซึ่งนำพามนุษย์มาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เอลฟ์ในที่สุด

ทั้ง 7 คนออกเดินทางจากต่างที่ต่างถิ่นและมีจุดประสงค์การเดินทางต่างกัน แต่โชคชะตาก็พาให้มาเจอกันและร่วมหาทางบรรลุเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือการโค่นล้ม Balor (รับบทโดย Lenny Henry) หัวหน้าดรูอิดผู้มีชาติกำเนิดต้อยต่ำทว่ามักใหญ่ใฝ่สูงและทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่มุ่งหวัง

นอกจากนั้นยังมีนักแสดงรับเชิญอย่าง Joey Batey กลับมารับบท Jaskier หรือกวีจอมกะล่อน Dendelion ในเวอร์ชันนวนิยายและเกม เนื่องจาก Jaskier เป็นมนุษย์ที่มีชีวิตอยู่ในยุคพันกว่าปีให้หลังเหตุการณ์ในซีรีส์นี้ ดังนั้นเป็นไปได้ว่าตัวละครนี้อาจเป็นผู้นำเรื่องราวในอดีตอันไกลโพ้นมาบอกเล่าต่อ ซึ่งในตัวอย่างจาก Netflix ก็มีฉากที่ดูเหมือน Jaskier กำลังจะได้รับฟังเรื่องนี้จากเอลฟ์คนหนึ่ง

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ซีรีส์ The Witcher ฉบับ Netflix โดนโจมตีตั้งแต่ซีซันแรกคือ การแคสต์นักแสดงที่มีความแตกต่างหลากหลาย (Diversity) ทางเชื้อชาติและสีผิวจนทำให้ตัวละครบางตัวมีรูปร่างหน้าตาแตกต่างจากในเรื่องต้นฉบับไปไกลลิบ รายชื่อและภาพนักแสดงเท่าที่มีการเปิดเผยมาสำหรับภาค Blood Origin เองก็แสดงให้เห็นว่าทีมผู้สร้างมินิซีรีส์นี้ให้ความสำคัญเรื่องความแตกต่างหลากหลายไม่แพ้กัน อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เนื้อเรื่องในซีรีส์นี้เป็นเหตุการณ์ในอดีตกาลนมนานกาเลที่ยังไม่เคยมีการขยายความอย่างละเอียดไม่ว่าจะในชุดนวนิยายต้นฉบับโดย Andrzej Sapkowski หรือเกมภาคใดๆ โดยเครือ CD Projekt จึงพอกล้อมแกล้มไปได้ว่าเอลฟ์ในสมัยพันกว่าปีก่อนของมหาทวีปอาจเหมือนมนุษย์บนโลกเราที่มีหลายเชื้อชาติ การจะมีเอลฟ์ผิวดำอย่าง Brown หรือ Henry และเอลฟ์เอเชียอย่าง Yeoh จึงไม่แปลกอะไร

แก่นเรื่องของ The Witcher คือโชคชะตาเป็นสิ่งที่มิอาจหลีกเลี่ยง และการได้รับรู้แต่เนิ่นๆ ว่าท้ายที่สุดเรื่องราวในภาค Blood Origin จะนำไปสู่จุดจบอันโชกเลือดของเผ่าพันธุ์ที่เป็นตัวละครหลักในเรื่อง เป็นความคิดที่ชวนหดหู่ไม่น้อย แต่ก็อย่างที่หลายคนพูดกันว่า บางครั้งจุดหมายปลายทางก็ไม่สำคัญเท่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างทาง ก็ต้องรอดูกันครับว่าทั้ง 4 ตอนของมินิซีรีส์เรื่องนี้จะนำเสนออะไรมาหันเหความสนใจผู้ชมไปจากการตระหนักถึงโศกนาฏกรรมอันหดหู่ตามไทม์ไลน์ของซีรีส์หลักได้บ้าง

อ่านต่อ

More Like This